โรคกับการเดินทางทางอากาศ
4 เรื่องสำคัญ #ผู้โดยสารป่วย #คนท้องต้องรู้ก่อนขึ้นเครื่องบิน เพราะความปลอดภัยของผู้โดยสารเป็นเรื่องสำคัญ มาดูกันว่าโรคหรือภาวะใดที่ต้องคำนึงก่อนการเดินทางโดยเครื่องบิน และควรเตรียมตัวอย่างไรบ้าง #AOTofficial #aviation #airport #travel #boarding #ท่าอากาศยานไทย
ข้อมูลอ้างอิง: IATA Medical Manual, June 2018 (Specific medical guidelines page 53-60)
เพื่อความปลอดภัยของตัวคุณเอง หากป่วยเป็นโรคต่อไปนี้ โปรดหลีกเลี่ยงการเดินทางโดยเครื่องบินนะครับ
- ผู้ป่วยโรคทางระบบไหลเวียนโลหิต โรคหัวใจที่ไม่สามารถควบคุมอาการได้
- ผู้ป่วยโรคระบบทางเดินหายใจเฉียบพลันรุนแรง
- ผู้ป่วยโรคทางสมองและระบบประสาทรุนแรง (เช่น โรคหลอดเลือดในสมอง โรคลมชักที่ไม่ได้รักษาอย่างต่อเนื่อง โรคทางจิตเวชที่ไม่สามารถควบคุมอาการได้)
- ผู้ป่วยที่ต้องได้รับการผ่าตัดในช่องท้อง ช่องอก หรือเพิ่งผ่าตัดใหญ่มาไม่เกิน 14 วัน
- โรคเรื้อรังที่อาจส่งผลให้เกิดภาวะแทรกซ้อนต่อระบบไหลเวียนโลหิตและทางเดินหายใจ
- ผู้ป่วยโรคที่เกี่ยวข้องกับโพรงอากาศภายในร่างกาย (เช่น หูชั้นกลาง โพรงไซนัสอักเสบ)
- ผู้ป่วยโรคติดเชื้อรุนแรง ที่สามารถแพร่กระจายเชื้อโรคได้ เช่น โรควัณโรคที่ยังไม่ได้รับการรักษา, โรคอีสุกอีใส
- นักท่องเที่ยวที่ได้เดินทางไปทำกิจกรรมผจญภัย อย่างดำน้ำลึกหรือปีนเขาสูงมาภายใน 24 ชั่วโมง
#AOTofficial #aviation #airport #travel #boarding #ท่าอากาศยานไทย
หากคุณแม่อยากพาลูกในท้องขึ้นเครื่องบินอย่างสบายใจ อย่าลืม! ขอใบรับรองแพทย์มาด้วยนะครับ
ข้อกำหนดของสายการบินกรณีผู้โดยสารตั้งครรภ์ และมีอายุครรภ์เกิน 28 สัปดาห์ จะต้องแสดงใบรับรองแพทย์เพื่อรับรองความปลอดภัยในการเดินทาง โดยมีหลักเกณฑ์คือ
- ใบรับรองแพทย์ต้องระบุวันกำหนดคลอด และรับรองความปลอดภัยในการเดินทาง (Fit For Air Travel)
- *การตั้งครรภ์ปกติ สามารถเดินทางได้จนถึงอายุครรภ์ 34 สัปดาห์ โดยไม่จำกัดระยะเวลาบิน
ยกเว้นบางสายการบินอนุญาตให้คุณแม่ตั้งครรภ์ 34 - 36 สัปดาห์ สามารถบินได้ไม่เกิน 4 ชม. - *การตั้งครรภ์แฝด สามารถเดินทางได้จนถึงอายุครรภ์ 32 สัปดาห์ (ควรออกเอกสารรับรองความปลอดภัยในการเดินทางจากแพทย์เฉพาะทางเพื่อแสดงต่อสายการบิน)
- การตั้งครรภ์ที่มีภาวะแทรกซ้อน ไม่ควรเดินทางโดยเครื่องบิน ยกเว้นได้รับการตรวจประเมินและมีเอกสารรับรองความปลอดภัยในการเดินทางจากแพทย์เฉพาะทาง
- ผู้โดยสารตั้งครรภ์ที่มีประวัติแท้งบุตรในการตั้งครรภ์ครั้งนี้ ไม่ควรเดินทางโดยเครื่องบิน กรณีจำเป็นควรพบแพทย์เฉพาะทาง เพื่อออกใบรับรองแพทย์ก่อน
#AOTofficial #aviation #airport #travel #boarding #ท่าอากาศยานไทย
ผู้โดยสารที่ต้องการ #ใบรับรองแพทย์ เพื่อใช้ในการเดินทางโดยเครื่องบิน สามารถไปพบแพทย์ที่โรงพยาบาลหรือที่ท่าอากาศยานก็ได้ แต่ก่อนพบแพทย์ต้องแน่ใจว่าสุขภาพร่างกายพร้อมเดินทางจริง หากเจ็บป่วยกะทันหัน ควรหลีกเลี่ยงเพื่อความปลอดภัยของตัวเองนะครับ โดยใบรับรองแพทย์ต้องระบุว่า สามารถเดินทางโดยเครื่องบินได้ หรือ *Fit For Air Travel* เสมอ เมื่อได้รับใบรับรองแพทย์แล้วนำไปแสดงต่อเจ้าหน้าที่สายการบินที่เคาน์เตอร์เช็กอิน หรือห้องบัตรโดยสารได้เลย
#การขอใบรับรองแพทย์สำหรับขึ้นเครื่องบิน
- เลือกพบแพทย์ในโรงพยาบาลที่มีแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ ที่ผ่านการอบรมด้าน #เวชศาสตร์การบิน #การอบรมลำเลียงทางอากาศ เพื่อประเมินอาการได้อย่างแม่นยำ
- หากมาพบแพทย์ที่ท่าอากาศยาน ต้องเตรียมเอกสารประวัติการรักษาหรือ Discharge Summary มาด้วย ซึ่งการขอใบรับรองแพทย์ที่ท่าอากาศยานจะมีค่าใช้จ่ายตามที่กำหนดไว้ในอัตราค่าภาระการใช้ท่าอากาศยานของ ทอท.
#AOTofficial #aviation #airport #travel #boarding #ท่าอากาศยานไทย
ผู้โดยสารป่วยที่ต้องได้รับการดูแลเป็นพิเศษ จำเป็นต้องมีแพทย์ พยาบาล หรือญาติที่สามารถดูแลผู้ป่วยอย่างถูกต้องร่วมเดินทางไปด้วย และอาจต้องใช้อุปกรณ์หรือออกซิเจนบนเครื่องบิน จะต้องเตรียมตัวอย่างไรบ้าง
- วางแผนการเดินทางและแจ้งสายการบินล่วงหน้าอย่างน้อย 3 - 5 วัน
- ขอใบรับรองแพทย์เพื่อเดินทาง
- ปฏิบัติตามกฎระเบียบสายการบิน
แม้จะมีใบรับรองแพทย์แล้ว **เจ้าหน้าที่หรือนักบินก็มีสิทธิ์ปฎิเสธผู้โดยสารได้** ตามกฎระเบียบของแต่ละสายการบินซึ่งแตกต่างกันไปนะครับ หากต้องการคำแนะนำด้านการแพทย์ เกี่ยวกับการเดินทางโดยเครื่องบิน ติดต่อได้ที่ #คลินิกแพทย์ ประจำทุกท่าอากาศยาน ตลอดเวลาทำการของท่าอากาศยาน
หรือ โทร. 02-132-7777 หรือ 02-535-1113 ตลอด 24 ชั่วโมง #AOTofficial #aviation #airport #travel #boarding #ท่าอากาศยานไทย